๑.ชื่อโครงการ โครงการ “เดินตามรอยพ่อ วิถีพอเพียง เพื่อสุขเพียงพอ”
๒.หลักการและเหตุ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
(ร.๙) ได้พระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้คนไทยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗
ความว่า "…การพัฒนาประเทศนั้นจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมี
พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด
แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อพื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป
หากมุ่งแต่จะสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย
ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด
ดังเห็นได้ที่อารยประเทศหลายประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงอยู่ในเวลานี้..."
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่รัฐกาลที่ ๙ ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทาง
การดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนาคุณลักษณะ
เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง
และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน ในปัจจุบันมีประชาชนนำมาปฏิบัติเกิดผลจำนวนมาก
มีการก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เช่น ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทุ่งรังทอง
และ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอาจารย์เพิ่มศักดิ์ เพื่อทำการถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจดูแปลงเกษตรผสมผสาน
การปลูกพืชเชิงซ้อน การทำปุ๋ยชีวภาพ และเทคนิคการปลูกพืชที่มีประสิทธิผลมากขึ้น
ตาม
พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.๒๕๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่
๖ พ.ศ. ๒๕๕๒ มาตรา ๖๘ (๗) องค์การบริหารส่วนตำบล มีอำนาจหน้าที่
บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร และแผนพัฒนาสามปี (๒๕๖๐-๒๕๖๒)
ยุทธศาสตร์การพัฒนาการส่งเสริมคุณภาพชีวิต แนวทางด้านการส่งเสริมอาชีพ การส่งเสริมการลงทุนและพาณิชกรรม
โครงการส่งเสริม/สนับสนุนการเกษตรตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ดังนั้น
องค์การบริหารส่วนตำบลชัยบุรี
ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ตำบลชัยบุรี จึงได้จัดทำโครงการเดินตามรอยพ่อ
วิถีพอเพียง เพื่อสุขเพียงพอ ให้กับประชาชนทั่วไป โดยจะพาผู้เข้าอบรมไปศึกษาแปลงสาธิต
ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทุ่งรังทอง และ อาจารย์เพิ่มศักดิ์ เพื่อเป็นการศึกษาดูงาน
เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการนำไปปฏิบัติจริง ได้นำความรู้มาเป็นแนวทางในชีวิตประจำวันและ
มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
๓. วัตถุประสงค์
๒. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ศึกษาดูงานแปลงเกษตรผสมผสาน
๓. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปดำเนินชีวิต
๔. เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนในตำบลชัยบุรี
๔. เป้าหมาย
ประชาชนในตำบลชัยบุรี
จำนวน ๔๐ คน เจ้าหน้าที่ประสานงานจำนวน ๒
คน
๕.ระยะเวลาการดำเนินงาน
๑๗ มีนาคม ๒๕๖๐
๖. วิธีการดำเนินการ
๖.๑. ประชุมปรึกษาหารือการจัดทำโครงการ
๖.๒.
เสนอโครงการขออนุมัติ
๖.๓
จัดซื้อจัดจ้างตามรายละเอียดโครงการ
๖.๔
จัดทำฝึกอบรม ตามกำหนดการ
๖.๕
สรุปผลโครงการเสนอให้องค์การบริหารส่วนตำบลชัยบุรี
๗. สถานที่ดำเนินการ
ณ
ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทุ่งรังทอง และ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอาจารย์เพิ่มศักดิ์
อำเภอกาญจนดิษฐ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๘. งบประมาณ
ตามข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๐ แผนงานการเกษตร งานส่งเสริมการเกษตร หมวดค่าใช้สอย ประเภทรายจ่ายเกี่ยวเนื่องการปฏิบัติราชการที่ไม่เข้าลักษณะรายจ่ายหมวดอื่น
ๆ รายการโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน ๒๕,๐๐๐ บาท และบัญชีโอนงบประมาณครั้งที่ ๘
เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ โอนเพิ่ม ๑๐,๐๐๐ บาทรวม งบประมาณตั้งไว้ ๓๕,๐๐๐
บาท
๙. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๙.๑ ประชาชนได้รับความรู้เกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
๙.๒
ประชาชนได้รับความรู้เกี่ยวกับเกษตรผสมผสาน
๙.๓
ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีความสุข
๑๐. ผู้รับผิดชอบโครงการ
สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลชัยบุรี
๑๑.การประเมินผล
ประเมินผลโดยทำแบบสอบถามความพึงพอใจของประชาชนต่อการจัดทำโครงการ
จำนวน ๔๐ ชุด
๑๒.ผู้เสนอโครงการ
(ลงชื่อ)( นายธนกร ลิ่มวงศ์ ) ผู้เขียนโครงการ
นักพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น